ภาษาไทย Dansk                                                                                                               Bestyrelse Link

Forside
Bibliotek
Billeder
Indmelding
Indvielsen af rytterstaueOm foreningen
TempelVedtægter
Valutakurs
Thai Festival

Click for Bangkok, Thailand Forecast
 

 

 


 

Tempeltur Wat Thaidenmark 2010

เล่าสู่กันฟัง

 

เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553 ทางสมาคมสวัสดีไทย-เดนิช ได้นำขบวนผ้าป่าไปทอดที่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร กรุงโคเปนเฮเกน.  มีผู้เข้าร่วมเดินทาง 34 ท่าน รถบัสรับผู้โดยสารจุดแรกจาก Tylstrup เวลา 7.30 น. นำโดยน้องจอยภรรยาของรองประธานได้พาเพื่อนๆเดินทางมา 

           จุดที่สองคือAalborg ทีมพี่มาลีและ Jørn เหรัญยิกของเราได้พาแขกมาขึ้นรถกันตอนเวลา 8.00 นาฬิกา รถบัสจอดรับมาแต่ระจุดตามหมายกำหนดการ. คุณสุรัตนากับคุณไพลินขึ้นที่ Randers คุณไพลินจองมาล่วงหน้าขอนั่งแถวหน้าสุดนะคะเพราะเป็นคนที่เมารถเอามากๆเลย ไม่เป็นไรค่ะเดียวจัดให้...

 

เวลา 9.35 น. รถก็มาถึงจุดที่ 5 คือ Tilst จุดนี้ออกจะคึกคักหน่อยหัวหน้าขบวนคือคุณเล็ก (ยุวดี)ได้นำต้นผ้าป่าขึ้นมาด้วยมีเสียงแซวว่าแหมคุณทำต้นผ้าป่าได้สวยเชียวนะ. เสียงตอบว่าไม่ได้ทำเองหรอก คุณจุ๋มกับคุณต๋อย (เสาวพันธ์) เธอช่วย กันทำก่อนล่วงหน้าตั้งหลายวันแล้ว ส่วนลิงที่เกาะต้นผ้าป่าน่ะฝีมือคุณจุ๋มเขา..บังเอิญคุณจุ๋มเธอป่วยเที่ยวนี้เลยไม่ได้ มาด้วยกัน..เสียด๊าย เสียดาย...

ที่จุดเมืองTilst นี้คึกคักกันดี สาวๆก็เยอะ พวกเราหอบเอาเครื่องดนตรีมาด้วย แค่นั้นยังไม่พอ คุณเล็กยังได้ซื้อปลาท่องโก๋มาแจกทุกๆคนอีกด้วยแหมช่างน่ารักเสียจริงๆๆ สาธุ...สาธุ... จุดต่อไปคือ Skanderborg แวะรับกลุ่มพี่น้อย (เดือนฉาย) พี่น้อยของเราจะไปด้วยกันทุกครั้งที่สมาคมฯจัด ชอบทำบุญว่างั้นเถอะ กลุ่มนี้มีด้วยกัน 5 คน คุณหน่อย คุณป้าแสงดาว น้องบุญชู และที่น้องใหม่สุดๆก็คือน้องแอ๋มจาก Hørning สนุกไหมจ๊ะน้องแอ๋ม ได้ข่าวว่าพวกน้องๆไม่ได้หลับไม่ได้นอน(เพราะนอนคุยกันจนดึก)     
    รถบัสจอดพักครึ่งชั่วโมงที่
Vejle พวกเราได้ลงมายืดแข้งยืดขา  บางคนก็เข้าห้องน้ำบางคนก็ไปซื้อ Lotto เสี่ยงโชคว่างั้นเถอะ ก็ขอให้ถูกรางวัลใหญ่ๆกันทุกๆคนนะจ๊ะ... ตลอดทางพวกเราก็ร้องรำทำเพลงกันไป บ้างก็ตีกลองตีฉิ่งตีฉาบแล้วแต่ว่าใครถนัดอะไร ขนาดพีมาลีคนหวานๆของเรายังลุกขึ้นมาเต้นกับเขา

 

เหมื่อนกัน ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายจ้า....คนที่เรียบร้อยที่สุดต้องยกให้พี่จันทร์จากViby ได้แต่นั่งยิ้ม ส่วนน้องปรานอมกับน้องยุพินจาก Aarhus ยังลุกขึ้นมาเต้นกับเขาเหมือนกัน หลังจากหยุดพักแล้วรถบัสก็มุ่งหน้าไป Middelfart

 

       จุดนี้คือกลุ่มของคุณวลีจากEsbjerg คุณViggo ผู้ใจบุญ แฟนของคุณวลีเป็นผู้ขับรถจาก Esbjerg พาคณะมาขึ้นรถที่ Middelfart ที่จุดนี้มีฝรั่งมาด้วย 2 นายคือคุณ Asbjørn แฟนของคุณสุภา และฝรั่งอีกท่านชื่อ Gorm ขอชมหน่อยนะว่าคุณพี่ช่างมีน้ำอดน้ำทนได้ดีเยี่ยม....พวกเราส่งเสียงกันออกสนั่นลั่นเมืองพี่ฝรั่งแกบอกสนุกดี คราวหน้าพวกฉันจะมาอีก.....พอกลุ่ม Esbjerg ขึ้นยิ่งครึ้กครื้นกว่าเดิมอีก เพราะว่าคุณวลีแกนนำทั้งร้องทั้งเต้นกันอยู่ท้ายรถ. ที่ติดใจคือน้องนิตยาเธอเต้นไปตลอดทางจริงๆๆไม่เหนื่อยบ้างหรือน้อง มิหน้าล่ะคุณน้องถึงได้หุ่นดี๊หุ่นดี.....

แวะรับคุณสุพรรณ ประธานของสมาคมฯที่ Vissenbjerg จุดนี้VIP หน่อยรับคนเดียวเลย โดนแซวว่าแหมนั่งหงอยอยู่คนเดียว..

       จุดสุดท้ายคือ Odense ผู้นำขบวน คือพี่อนงค์มีพาเพื่อนแหม่ม Irma มา
ด้วย 1 คน แหม่มคนนี้น่ารักมากๆๆเลย และพี่แต๋น(สุจิตรา)และคุณอ๊อด มีลูกชายของพี่แต๋นขับรถมาส่งด้วย น่าปลื้มจริงๆๆ... น้องบอลเกือบจะลงรถไม่ทัน (สงสัยขึ้นรถตอนคุณแม่เผลอ มัวแต่คุย
กับสาวๆ) ดีนะที่รถบัสไม่ออกก่อน รถบัสพาพวกเรามาจอดแวะกินข้าวกลางวันที่
Nyborg ก่อนที่จะข้ามสะพานใหญ่

 

อากาศก็แสนจะเป็นใจ แสงแดดจ้าและอบอุ่น หันไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้มของเพื่อนๆคนไทย เป็นกันเองกันทุกคน เรารับประทานอาหารกลางวันร่วมกันแจกจ่ายกันชิมอาหารเยอะแยะมากๆๆๆๆ

 

ผู้เขียนยังติดใจก้อยรสแซ่บอยู่เลยและบะจ่างฝีมือคุณหน่อยอร่อยมาก(เมื่อไหร่จะได้มีโอกาศได้ชิมอีกหน๋อ)ทำขายบ้างไหมจ๊ะหน่อยจ๋า... หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว รถบัสก็พาพวกเรามุ่งหน้าไปสู่เมืองหลวงกรุงโคเปนเฮเกน ระหว่างทางเราก็ตีกลอง ตีฉิ่ง ร้องเพลงกันไปตลอดทาง หางเครื่องน้องนิตยาเอย คุณวลีเอย และคนอื่นๆก็เต้นรำกันไปตลอดทาง และที่ฮือฮากันสุดยอดก็คือมีการประมูลเสื้ยยืดคุณสุพรรณ ผลคือพี่อนงค์ประมูลได้ในราคา 110 โครน เงินมอบทำบุญทอดผ้าป่า สาธุ ขอให้อายุมั่นขวัญยืนนะพี่นะ..

 

สมาคมได้พาเราไปไหว้พระบรมรูปทรงม้ารัชการที่ 5 ที่ Asia House หลังจากถ่ายรูปกันจนเป็นที่พอใจก็ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร คณะของเราไปถึงวัดประมาณ 5 โมงเย็นเศษๆ ทางวัดให้การต้อนอย่างดีไม่ว่าจะเป็นที่พักหรืออาหารการกิน ขอบคุณแม่ครัวหลายๆเน้อสำหรับอาหารอร่อยๆ พอได้ที่หลับที่นอนกันทุกคน เราก็มาพบกันที่โรงครัว ทานอาหารเย็น ดื่มกาแฟ บางคนก็ไปล้างหน้าเปลื่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปฟังพระสวดมนต์ทำวัดก่อนนอน ตอนค่ำมีพระมาทำวัด 5 รูป หลังจากทำวัดเสร็จพระครูเกษมก็เทศให้พวกเราฟัง

ปรกติพระครูเกษมท่านไม่ได้อยู่ประจำที่นี่ ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดป่าสหธรรมิการาม (ศรีประดู่) ที่เชียงใหม่โน่น และก็ที่วัดที่ Island ด้วย แต่ช่วงเข้าพรรณษาท่านจะมาจำวัดอยู่ที่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร Stenløse พวกเราชอบให้ท่านเทศให้ฟังวันนี้ ท่านเล่าเรื่องเปรตให้ฟังบอกว่าช่วงนี้เขาปล่อยเปรตให้มาขอส่วนบุญและอะไรอีกมากมาย..จำไม่ได้. ดึกพอสมควรพวกเราก็กราบลาท่านไปพักผ่อนเตรียมตัวไว้ทำวัดตอนตีห้าของวันรุ่งขึ้น แต่ก่อนจะไปเหลือบไปเห็นพี่แต๋นกำลังขอสายสินท่านอยู่คุณเล็กเลยเข้าไปขอมั่ง(สงสัยกลัวเปรตแน่ๆๆ)

รุ่งอรุณของวันใหม่บางคนก็ตื่นแต่เช้าไปฟังพระสวดมนต์และนั่งสมาธิกัน หลังจานนั้นพวกเราก็ทานอาหารเช้ากัน  มีข้าวต้มกุยร้อนๆไว้รอ ผัดผักอร่อยมากและอื่นๆอีกหลายอย่าง พอทานอาหารเช้าเสร็จเราก็ไปตบแต่งต้นผ้าป่ากัน พอตอนนี้ก็มีแขกมาร่วมทำบุญอีกมากมาย
มีพี่วิภาจาก
Asia House, คุณพรรณ จาก Thai Travel ก็ฝากเงินมาร่วมทำบุญด้วยกัน คุณเล็ก(ยุไรวรรณ)เอย คุณยุพินเอย มาจากFyn คุณประกายมากระซิบบอกว่า ฉันนั่งรถไฟมาคนเดียวจากเมืองSønderborgโน่น ราคาแค่ 80 กว่าโครนฯเท่านั้น และชาวโคเปนฯอีกหลายท่านก็มาร่วมทำบุญด้วย

ฝากบอกนิดหนึ่งน้องมะขามทำไมน่ารักจังตอนเวลา 10.30 น. เราถวายต้นผ้าป่าได้ปัจจัยรวมยอดเป็นจำนวน 21099,-

โครนเน่อร์ และเงินไทยอีก 905 บาท สาธุ ขอให้บุญกุศลที่พวกเราได้ทำกันในวันนี้ส่งผลให้พวกเราทุกคนจงมีแต่ความสุขและอย่าได้เจ็บ ได้ไข้ อยู่กันอย่างมีความสุขทุกทั่วหน้าเทอญ....

ต่อจากนั้นเราก็มาซื้อของใส่บาต ใส่บาตเสร็จเราก็หม่ำอีกรอบ รอบนี้มีของหวานด้วยแฮะติดใจฟักทองแกงบวชเดี๋ยวกลับไปบ้านจะแกงบวชฟักทองมั่ง อิ่มหนำสำราญก็เตรียมตัวกลับ รถบัสมารับเวลา 13 นาฬิกา ขนของขึ้นรถดีใจจะได้กลับไปหาคนที่บ้านพร้อมที่จะเอาบุญไปฝาก แต่ก็อดใจหายไม่ได้ว่าเมื่อไหร่หนอจะได้มีโอกาศมาสัมผัสแบบนี้อีก หลวงพ่อสุธิพงค์ และพระครูเกษมมาส่งพวกเราถึงหน้าวัดเอ.. หรือท่านกลัวว่าพวกเราจะอยู่ต่อขอบวชชีเลยต้องออกมาดูว่ากลับกันหมดไหมแฮ่...แฮ่... กราบลากันเรียบร้อยก็ขึ้นรถโบกมือบ้ายบาย แถมด้วยเพลง ลาก่อนสำหรับวันนี้ ขอลาทีทั้งที่อาลัย จนกว่าจะพบกันใหม่ ถึงจากไปฝากใจมา.......

ฝากบอกและขอบคุณทุกๆคนที่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร Stenløse ที่ดูแลพวกเราอย่างดีโดยเฉพาะป้าน้อย คุณบังอรและน้องนกที่คอยให้ความสะดวกกับพวกเราทุกๆคน หวังว่าเราคงได้พบกันอีกและขอบคุณแม่ครัวทีทำอาหารกล่องให้เรามาทานตอนมื้อเย็นอีกด้วย

ขากลับก็ยังมีเสียงกลองจากคุณสุพรรณและเสียงเพลง "ส้มตำ" ซึ่งคุณเล็กประสานเสียงกับคณะมาจนถึงเมืองNyborg หลังจากนี้ก็ไม่ค่อยครึ้กครื้นเหมือนตอนขาไปแฮะ สงสัยจะอิ่มบุญกัน แต่ก็มีเสียงคุยกันกระหนุงกระหนิ่ง เห็นแล้วทางสมาคมฯก็สุดแสนจะปลื้มใจ หวังว่าโอกาสหน้าทุกๆท่านคงไปร่วมงานทอดผ้าป่ากับสมาคมฯอีก สำหรับวันนี้สวัสดีจากคณะกรรมการสมาคมสวัสดีไทย-เดนิช เขตจูลแลนด์และ ฟืน... สวัสดีค่ะ...

 
 

ทอดผ้าป่าสามัคคี

ที่วัดไทยเดนมาร์กพรมวิหาร

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2553

เขียนโดย โยมนก


          
ยอดสวย รวยทรัพย์ จากผ้าป่ายูแลนด์ อิ่มท้อง อิ่มตา อิ่มใจ และ อิ่มบุญ เสียงสวดมนต์ ดั่งก้องพร้อมเพรียบกันไปทั่วห้องสวดมนต์ และไม่นานก็สงบนิ่ง เพื่อน้อมจิตน้อมใจ พากันตั้งใจฟังธรรมะ ที่ท่านพระครูเกษมได้น้อมนำคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้พวกเราฟัง

           พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนให้พวกเรารู้ความจริง 4 ประการ คือ การมีอยู่ของทุกข์  เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และ หนทางไปสู่ความดับทุกข์  ความจริงเหล่านี้เราเรียกว่า อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ต่อจากนั้นท่านก็ยังได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับดอกบัว 4 เหล่า มาให้พวกเราเปรียบเทรียบ ให้เราฟัง แล้วลองถามตัวเองซิว่าเป็นดอกบัวเหล่าไหน
 

1. ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสดงอาทิตย์ก็เบิกบานทันที่ พวกนี้มีสติปัญญาฉลาด เฉลียว เป็นสัมมาทิฏิฐิเมื่อได้ฟังธรรมก็สา

มารถ รู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว
 

2.  ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ พวกนี้มีสติปัญญาปานกลางเป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิ จารณาตามและได้รับการอบรม ฝึกฝนเพิ่มเติ่มจะสามารถรู้และเข้าใจได้เวลาอันไม่ช้า พร้อมที่จะเบินบานในวันถัดไป


3.  ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ พวกนี้มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิ จารณาและได้การอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั้นเพียร ไม่ย้อท้อ มีสติมั้น ประ กอบด้วยศัรทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถที่รู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า  และค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหน้า


4.  ดอกบัวทีอยู่กับโคลนตม พวกนี้ไร้สติปัญ ญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพรียน แถมยังตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาศโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

หายเหนื่อย กันแล้ว พร้อมได้ธรรมอิ่มใจ มาวัดทั้งทีก็ต้องฟังเรื่องราวตื้นเต้น เป็นธรรมดาไปพ้นเรื่อง   ผี อย่าพึงกลัว ลองฟังดู เป็นอุทาหร์ ของเรื่อง เปรต ท่านว่านะ เปรต มี 2 อย่าง


1. เปรตดิบ ก็คือ เป็นเปรตตั้งแต่ยังไม่ตาย ให้ดูจากกระทำของเราเองในขณะที่มีลมหายใจ ที่สำคัญเวลามาวัดสิ่งของอันไหน ที่เป็นของสงฆ์แล้ว ถ้าเราไปทำความเสียหาย หรือ เอาของสิ่งใดสิ่งหนึ่งของสงฆ์มาเป็นส่วนตัวไม่ได้รับอนุญาติจากพระสงฆ์ ฉะนั้น จึงต้องมีชำระหนี้สงฆ์ ตามสำควร

2.  เปรตสุก ก็คือ เปรตดิบแล้วยังไม่พอ หลัง จากตายก็กลายเป็นเปรตสุก โดยบริบูรณ์


ต่อจากนั้นท่านก็มองไปรอบๆห้องสวดมนต์ ท่านก็กล่าวว่า ทำไมถึง จุด ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม และ บูชาดอกไม้


ธูป 3 ดอก เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า
ธูปดอก ที่ 1 คือ พระปัญญาธิคุณ (ท่านได้ตรัสรู้)
ธูปดอก ที่ 2 คือ พระวิสุทธิคุณ (ความบริสุทธิ)
ธูปดอก ที่ 3 คือ พระมหากรุณาธิคุณ (ความเมตตากรุณา)

เทียน 2 เล่ม เป็นการบูชาพระธรรม ซึ่งในทางศาสนาพุทธ แยกออกเป็นสองส่วนคือ
พระธรรมและ พระวินัย ทั้งสองส่วนนี้จะแยกออกจากกันไม่ได้ ต้องควบคู่กันไป
พระธรรม คือ  คำสอนของพระพุทธเจ้า เนื้อหาสาระธรรม
พระวินัย คือ คำสั่งของพระพุทธเจ้า รูปแบบ การจัดตั้งวางแผน วางระบบ ทำให้สามารถสื่อธรรมะ หรือพระธรรมออกไปให้กว้างไกล
จุดเทียนแล้วสว่างเปรียบเสมือนแสงสว่างหรือปัญญา มีพระธรรมนำทางย่อมเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องและปลอดภัย

ดอกไม้ เป็นการบูชาพระสงฆ์ ไม่ได้จำกัด หรือระบุประเภท เวลานำมาบูขาควรจัดให้เป็นเรียบร้อย และดูสวยงาม

สุดท้ายของฝากจากพระครูเกษม ท่านก็ไม่มีอะไรมาก เพราะทุกคนมีกันหมด แล้ว แต่ทุกคนลืม
ท่านจึงแนะนำให้พวกเราทำดู ก็คือ อุปกรณ์ในตัวเรานี้เอง ให้พวกเรากำหนดลมหายใจเข้าออก ให้นับตามอายุของตนเอง
หายใจเข้า
»พุทธ« หายใจออก »โท« สองคำจำง่ายๆ ให้ขึ้นใจ และให้อยู่กับลมหายใจของเราทุกขณะ
นี้แหละ คือ การทำสมาธิ อย่างง่าย 

 

Sawasdee Thai-Dansk Forening, Parkvej 26, 5492 Vissenbjerg. e-mail: info@thai-dansk.dk

Click for Bangkok, Thailand Forecast