ภาษาไทย Dansk                                                                                                          ติดต่อสมาคมฯ Link

หน้าหลัก
ประวัติของสมาคม
ห้องสมุด
รูปภาพ
สมัครเป็นสมาชิก
ข่าวจากสถานเอกอัครราชทูต
Valutakurs
Vedtægter
Thai Festival
Click for Bangkok, Thailand Forecast

 

 

 

 

 

การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสครบรอบ 100 ปีและ 110 ปีแห่งการเสด็จประพาสยุโรป และการเสด็จประพาสราชอาณาจักรเดนมาร์ก

          ปี 2550 เป็นวโรกาสครบรอบ 100 ปีและ 110ปี แห่งการเสด็จประพาสยุโรปและประพาสเดนมาร์กของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์ก ในวาระอันเป็นมหามงคลนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และการที่พระองค์ทรงสร้างสายสัมพันธ์กับนานาประเทศในยุโรปรวมทั้งเดนมาร์ก  สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2550 โดยจะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 4 18 สิงหาคม 2550)ควบคู่ไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทย ณ พิพิธภัณฑ์ Skagen By-og Egnsmuseum, P.K. Nielsensvej 8-10, 9990 Skagen เมือง Skagen ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายแห่งการเสด็จประพาสเดนมาร์กของพระองค์และเป็นเมืองที่พระองค์ทรงปักธงช้างที่แหลม Grenen

         การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมนิทรรศการทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย ได้เข้าใจและรับทราบในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันดีทั้งด้านการทูตและการเมืองระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์ก ตลอดจนพระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีคุณค่าอนันต์ต่อปวงชนชาวไทย อีกทั้ง เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมชาวไทยมีความรักและเทิดทูนในองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ รวมทั้งมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย

พิธีเปิดงานฯ จะเริ่มในช่วงบ่ายวันเสาร์ของวันที่ 4 สิงหาคม 2550 ระหว่างเวลา 14.00-16.00 น. หลังจากพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติแล้ว จะมีการเลี้ยงรับรองอาหารว่างแก่แขกที่เข้าร่วมงาน   ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกนจึงใคร่ขอแจ้งให้ทราบทั่วกันและเรียนเชิญท่านเข้าร่วมในงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว

โครงการหลวงเฉลิมพระเกียรติ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน สำนักงานที่ปรึกษาเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป สำนักงานการท่องเที่ยว ณ กรุงสตอกโฮล์ม สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน และสำนักงานการบินไทย ได้ร่วมกันจัดงานโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จ         พระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในปี 2550   ณ   Bygningkulturens Hus กรุงโคเปนเฮเกน ระหว่างเวลา 12.00 – 19.00

พิธีเปิดเริ่มขึ้นเวลา 12.00 น. โดยม.. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้กล่าวเปิดงานและนายชัยสิริ อนะมาน เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกนได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มาร่วมงาน ซึ่งประกอบด้วยคณะทูตานุทูต สมาชิกสมาคม Danish-Thai society และแขกผู้มีเกียรติ   อื่น ๆ นับกว่า 150 คน


การจัดงานโครงการหลวงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                              สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน
                                                                                                                     april 2007

          เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมมายุครบ 80 พรรษา ในปี 2550 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ร่วมกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป สำนักงานการท่องเที่ยว ณ กรุงสตอกโฮล์ม สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน และสำนักงานการบินไทย ณ กรุงโคเปนเฮเกน จะจัดงานโครงการหลวงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ณ Bygningskulturens Hus ตั้งอยู่ที่ Borgergade 111 DK-1300 กรุงโคเปนเฮเกน ระหว่างเวลา 13.30-19.00 น.

          การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับโครงการหลวง อาทิ ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรโครงการหลวง (สินค้าดอยคำ) แหล่งท่องเที่ยวที่งดงามของโครงการหลวง
         นอกจากนี้ จะมีการจัดนิทรรศการแสดงพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับงานโครงการหลวง แสดงผลสำเร็จของโครงการหลวงในการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น การฉายวีดีโอและวีดีทัศน์ พร้อมทั้ง จะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าดอยคำจากโครงการหลวงและสินค้าจากโครงการศิลปาชีพหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูป ดอกไม้แห้งและงานหัตถกรรมของชาวเขา สินค้าหัตถกรรมประเภทอื่น ๆ ของไทย การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มของไทย  การสาธิตการร้อยดอกไม้สด และการแกะสลักผัก ผลไม้ไทยรวมไปถึงการแสดงนาฏศิลป์ไทยด้วย

          จึงขอเชิญชวนคนไทยในเดนมาร์กเข้าร่วมงานโครงการหลวงเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันและเวลาข้างต้น

ไม่เก็บค่าผ่านประตู

19 มีนาคม 2550

ต้นไม้ของพ่อ

               สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน

                 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2549 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน โดยออท.ชัยสิริ     อนะมานและคณะข้าราชการสอท. ได้ร่วมกันจัดโครงการปลูกต้นราชพฤกษ์ที่ Greenhouseในสวนพฤกษศาสตร์เมือง Aarhus และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2549 ปลูกที่สวนพฤกษศาสตร์ กรุง Copenhagen เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปี 2549

ก่อนที่จะเล่าถึง โครงการปลูกต้นราชพฤกษ์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ น่าจะมาทำความรู้จักกับต้นราชพฤกษ์ซึ่งเป็นไม้มงคลประจำชาติไทยว่ามีความสำคัญอย่างไร

ต้นคูณหรือราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลประจำชาติไทย มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Cassia fistula (Yellow Shower, Indian Laburnum) หรือชื่อในภาษาเดนิชว่า Guldregn-kassia หรือแปลตรงตัวได้ว่า ฝนทอง ไม้นี้เวลาออกดอก จะเป็นพวงระย้า สีเหลืองสด เป็นสีแห่งพระพุทธศาสนา และสีเหลืองนี้เป็นสีประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล

อดุลยเดช   พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ด้วยเหตุนี้เอง ราชพฤกษ์จึงได้รับเลือกให้เป็นไม้ประจำชาติไทย และเป็นชื่อของงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549   

การนำไม้เมืองร้อนเพื่อปลูกให้เจริญงอกงามในเมืองหนาวเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย หากสถานเอกอัครราชทูตฯไม่ได้รับความร่วมมือจากบรรดาคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย Aarhus และ Copenhagen ต้นราชพฤกษ์นี้เดินทางไกลมากว่า 5,000 ไมล์จากประเทศไทยมายังประเทศเดนมาร์กเพื่อจะมาเติบโตและได้รับการทะนุบำรุงให้งอกงามที่นี่โดยจะเป็นสัญญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ

                             ในโอกาสพิเศษนี้ เป็นที่น่าประทับใจว่าทั้งคนไทยและคนเดนมาร์กต่างมาร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง  เพิ่มอุณหภูมิความอุ่นของ green house ให้อุ่นขึ้นไปอีก หลายคนรู้สึกเหมือนอยู่หน้าร้อนในเมืองไทย มีความยินดีและปลาบปลื้มใจไปทั่วกัน หลายคนชี้ชวนกันดูต้นไม้นานาพันธ์จากเมืองร้อนและเมืองไทย  ซึ่งต้องขอบอกว่าต้นไม้เหล่านี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากบรรดาเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับคณาจารย์และคนสวน ใบสีเขียวเสียดยอดต้นไม้หลายต้นอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์  บางต้น ก็ออกดอก ออกผลให้คนปลูกและคนมาเยือนได้ชื่นชม ก็ใครจะไปนึกว่าหน้าหนาวที่เดนมาร์กอันยาวนาน จะมีสวนพฤกษศาสตร์อุ่น ๆ  ปกป้องต้นไม้หน้าร้อนเต็มสวนนี้ไว้ ขนาดที่ว่า เรามี หัวปลีจากต้นกล้วย ดอกกล้วยไม้ มาวางเคียงประดับโต๊ะอาหารเลี้ยงแขก ราวกับว่าสวนนี้เป็นเมืองร้อนเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง แถวไหนสักแห่งในเมืองไทย ขัดกับอากาศเย็นภายนอกอย่างสิ้นเชิง                         

ต้องขอแจกแจงให้ทราบว่า พิธีปลูกต้นไม้ที่ Arhus ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายเดนมาร์ก อย่างดียิ่ง  อาจารย์ที่มีส่วนในการช่วยให้โครงการนี้ลุล่วงไปด้วยดี คือ ศาสตราจารย์ Henrik Balslev หัวหน้าภาควิชา systematic botany ศาสตราจารย์ Kai Larsen และดร. Anders S. Barford จากมหาวิทยาลัย Arhus รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของสวนพฤกษ์ศาสตร์ คนสวนและผู้มีส่วนร่วมในงานนี้ทุกท่าน เพราะได้ดูแลต้นไม้ซึ่งหอบหิ้วกันมาจากเมืองไทย ให้มีใบเขียวสด ไว้ได้อย่างดี  

เมือง Arhus เป็นเมืองที่มีคนไทยอาศัยอยู่มาก และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของเดนมาร์ก จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าไฉนจึงมีคนไทยมาร่วมงานกันมาก ดูได้จากรูปถ่ายที่นำลงให้ดู ในระหว่างพิธีปลูก  เสียงกล้องจึงระรัวเพื่อเก็บภาพครั้งนี้ไว้ ว่าสวนพฤกษศาสตร์ของเดนมาร์กจะต้องดูแลต้นไม้เมืองร้อนของเมืองไทยอีกหนึ่งต้นไว้ให้คนจากรุ่นสู่รุ่นได้มาเยี่ยมชม

เช่นเดียวกัน ในกรุงโคเปนเฮเกน  พิธีปลูกต้นไม้ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2549 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.Ole Hamann ผู้อำนวยการสวนพฤกษศาตร์ของโคเปนเฮเกน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ Jette Dahl Moller แห่งสวนพฤกษศาสตร์ของโคเปนเฮเกน ช่วยจัดงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้พิธีปลูกต้นไม้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และราบรื่น                 

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า พิธีปลูกต้นไม้ในสวนพฤกษศาสตร์นำพาความสามัคคีมาจากชาวไทยในต่างแดน ที่ต่างพากันมาแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสสำคัญนี้  เกือบทุกคนที่มาร่วมงานใส่เสื้อสีเหลืองสดมีตราสัญญลักษณ์สิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี และต่างช่วยกันถือธงเหลืองมีตราสัญญลักษณ์สิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี ทำให้สีเหลืองสดดูสว่างในห้องต้นไม้สีเขียวในทันที 

พวกเราจากสถานเอกอัครราชทูตฯ หวังใจเป็นยิ่งนักว่า ต้นไม้นี้จะโตขึ้นพร้อม ๆ กับกาลเวลาที่ผ่านไป  และจะออกดอกให้ได้ดูแทนคำอธิบายว่าสีเหลืองพวงระย้าของฝนทองนี้สวยเช่นไร  ถึงวันนั้น หลายคนคงจำได้ว่าเราได้ร่วมกันเป็นพยานในการปลูกต้นไม้นี้ร่วมกัน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เราเทิดทูน เป็นต้นไม้ของพ่อหลวง ที่จะเติบโตขึ้นในต่างแดนอย่างมั่นคงและแข็งแรงสืบไป
รูปภาพ........

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 9 รูปจากวัดไทย 3 แห่งในประเทศเดนมาร์ก ได้แก่ วัดไทยเดนมาร์กพรมวิหาร วัดป่าโคเปนเฮเกน และวัดพุทธโคเปนเฮเกน ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2549 เวลา 09.30 น. หลังจากนั้นก็ร่วมกันถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ ณ สถานเอกอัครราชทูตฯ

 

กำหนดการ
งานเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ณ สถานเอกอัครราชทูต กรุงโคเปนเฮเกน
วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2549 เวลา 09.30 - 12.00 น.

06.30 น. - ฯพณฯ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโคเปนเฮเกนพร้อมด้วยภริยา
                 และข้าราชการ ตลอดจนพี่น้องชาวไทยเดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ
09.45 น. - คณะสงฆ์เดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ
10.00 น. - ประธานในพิธีเปิดกรวยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                 (ผู้ร่วมในพิธีลุกขึ้นยืนพร้อมกัน) ประธานกล่าวถวายรายงานต่อหน้าพระบรม
                 ฉายาลักษณ์ฯ ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
               - ประธานจุดเทียน ธูป เพื่อบูชาพระรัตนตรัย
               - อารธนาศีล
               - พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ บทถวายพระพร เพื่อถวายพระพร
                 ชัยมงคลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
               - ประธานและข้าราชการรวมทั้งพี่น้องชาวไทยร่วมถวายจตุปัจจัยพระสงฆ์
               - กรวดน้ำ
               - พรมน้ำมนต์
11.00 น. - ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

รูปภาพ.......

ประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนทุน

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกนมีความประสงค์จะสมัครคัดเลือกบุคคลเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนทุน จำนวน 1 อัตรา 
คุณสมบัติทั่วไป

1.  สื่อสารโดยการเขียนและสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ เดนิช และไทยได้ในระดับสูง

2.  พิมพ์ภาษาอังกฤษ เดนิช ไทยและใช้โปรแกรมต่าง ๆ เช่น Word, Excel, Access. PowerPoint ได้

3.  สามารถใช้ Internet เพื่อหาข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว

4. มีมนุษยสัมพันธ์และพร้อมที่จะดูแล ให้คำปรึกษานักเรียนไทย

5. มีความรับผิดชอบ สามารถอุทิศตนทำงานนอกเวลาราชการได้

6. สุขภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์แข็งแรงดี

หลักฐานการสมัคร
1. สำเนาวุฒิการศึกษา จำนวน 1 ฉบับ
2. รูปถ่ายหน้าตรง 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง จำนวน 1 ฉบับ
4. ใบรับรองประสบการณ์การทำงาน
5. หลักฐานอื่นๆถ้ามี

เวลา และสถานที่รับสมัคร
       ผู้สนใจติดต่อสอบถามและสมัครได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
No
rgesmindevej 18, 2900 Hellerup โทร. 39 62 50 10 
โทร
สาร 39 62 50 59  e-mail:info@thaiembassy.dk


                      The Royal Thai Embassy, Norgesmindevej 18, 2900 Hellerup, Copenhagen
Tel: +45 39 62 50 10  Fax: +45 39 62 50 59

ข่าวประชาสัมพันธ์
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นอกราชอาณาจักร

 ที่ 13001/PR03/2549

          ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 2 เมษายน 2549  สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2549 

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2549
 
           
บุคคลสัญชาติไทยที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม 2549  และ ได้เคยลงทะเบียนขอมีสิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไว้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549

วิธีการลงคะแนน
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในเดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และลิทัวเนีย สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงจะจัดให้มีการ
                                 ลงคะแนนทางไปรษณีย์
            โดยจะส่งบัตรเลือกตั้งและเอกสารประกอบไปให้ตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในช่วงวันที่ 15-17 มีนาคม 2549 ทั้งนี้ ผู้ใช้สิทธิลงคะแนนจะต้องส่งบัตรเลือกตั้งกลับไปถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ภายในวันที่ 26 มีนาคม 2549
            หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งฯ สามารถสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข (45)   39 62 50 10 เวลา 13.00-16.00 น. ทุกวันทำการ หรือแจ้งทางโทรสารหมายเลข (45) 39 62 50 59
               
อนึ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 กำหนดให้การใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคนไทย ซึ่งบุคคลที่ไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งได้ ย่อมเสียสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติ
 

Thailands Ambassade og Ramkhamhaeng Universitetet,

i samarbejde med Thai Airways International og

Foreningen for Thai Restauranter og Supermarkeder i Danmark

Har hermed den glæde at invitere Dem til

 

Thai Klassisk Maske Dans-drama

I anledning af Hendes Majestæt Dronningen af Thailands

72. fødselsdag
Billet: 250 Kr.

Lørdag den 28. august 2004, kl. 19.00-22.00

i Lyngby Kulturhus

Efter forestillingen har De mulighed for at vinde præmier 
(3 flybilletter København – Bangkok) ved lodtrækning.

  Overskuddet fra billetsalget til forestillingen og lodtrækningen doneres til den Kongelige Velgørenhedsfond og øvrige fonde under Hendes Majestæt Dronningen af Thailands protektion

Billet Information: Den Kongelige Thailandske Ambassade, tel. 3962 5010

                         Thai Esan Marked, tel. 3324 1269, og Den Jai Marked, tel. 3379 7060

กงสุลสัญจร
วันที่ 29 พฤษภาคม 2547  ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 17.00 น. ทางสถานเอกอัครราชทูต,โคเปนเฮเกน และกรมการกงสุล
กระทรวงการต่าง ประเทศจะจัดทำกงสุลสัญจร ณ ferie- og kursuscenter 
KLITGÅRDEN , Klitgårdsvej 1-5,
8585 Glæsborg. ซึ่งตรงกับวันจัดงานสังสรรค์ประจำปีของสมาคม สวัสดีไทย-เดนิช เขต Jylland และ Fyn
พี่น้องชาวไทยที่ประสงค์จะรับบริการงานด้านกงสุล ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุหนังสือเดินทาง
เปลี่ยนแปลงแก้ไขชื่อ- นามสกุลในหนังสือเดินทาง รับรองเอกสาร มอบอำนาจ แจ้งเกิดบุตร ฯลฯ หรือมีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการใดๆ ในเรื่องเหล่านี้ สามรถนำเอกสารที่เกี่ยวข้องของท่าน มาพบกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

20/05-2004
 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยือนเดนมาร์ก

จดหมายข่าวจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน

ประจำเดือน พฤษภาคม 2545

  1. ชุมชนชาวไทยในเดนมาร์ก ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย

  2. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยือนเดนมาร์กในฐานะพระราช อาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก

  3. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสแก่ชุมชนชาวไทย ในเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียง

  4. พระราชดำรัสบางตอนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีแก่ชุมชน ชาวไทยที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2545
     

-----------------------------------

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคเปนเฮเกน

พฤษภาคม 2545

1. ชุมชนชาวไทยในเดนมาร์ก ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย

               ตามที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้ร่วมกับบริษัทการบินไทย ภาคพื้นสเแกนดิเนเวีย และสมาคมภัตตาคารอาหารไทยในประเทศเดนมาร์ก ร่วมกันจัดงาน ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2544 และในโอกาสดังกล่าว ชาวไทยในประเทศเดนมาร์กที่มาร่วมงาน ได้พร้อมใจ ร่วมกันสมทบทุนจำนวน 40,756.91 โครนเดนมาร์ก และ 1,560.00 บาท เพืื่อขอพระราชทาน ทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยนั้น

                   สถานเอกอัครราชทูต ได้ดำเนินการขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายเงินจำนวนดัง กล่าวโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศและสำนักราชเล๘าธิการ ซึ่งต่อมาสำนักราชเลขา ธิการได้แจ้งให้ทราบว่าได้นำควาามขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้ว ทรงขอบใจในการนี้ และสำนัราชเลขาธิการได้ส่งเงินสดจำนวนดังกล่าวไปยังสำนักพระ ราชวังแล้ว และได้แนบสำเนาใบเสร็จรับเงินสำนักพระราชวัง เล่มที่ 71 เลขที่ 3505 มาด้วย

 2.  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยือนเดนมาร์ก ในฐานะพระราช อาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก

                  ในระหว่างวันที่ 19-25 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเยือนเดนมาร์กในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีนาถ มาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และในวโรกาสดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระราชกรณียกิจ ณ สถานที่ต่างๆ ดังนี้

  • เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2545 ภายหลังสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเจ้าฟ้าชายเฟรเดอริก มกุฏราชกุมารแห่งเดนมาร์ก เสด็จถึงพระราชวัง Fredensborg เมือง Hillerød สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก พระราชทานเลี้ยง พระสุธารส หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทอด พระเนตรสถาบัน Asia House เสด็จฯเยี่ยมมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน รับฟังการบรรยาย สรุปจากอธิการบดีและคณาจารย์ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยฯ และเสวยพระกระยาหารค่ำจัดถวายโดย อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ
  • เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตร ปราสาท Frederiksborg พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ บริษัท คาร์ลเบอร์ก เสด็จฯเยี่ยมมหาวิทยาลัยออร์ฮุส รับฟังการบรรยายสรุปจากอธิการบดีมหาวิทยาลัย และคณาจารย์ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยฯ และเสวยพระกระยาหาร ค่ำ จัดถวายโดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ
  • เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ Moesgaard พิพิธพัณฑ์เมืองโบราณ Den Gamle By เมืองออร์ฮุส พิพิธพัณฑ์ Skagen และทรงปักธงชาติไทย ณ บริเวณ Grenen เพื่อเป็น สัญลักษณ์ว่าทรงเสด็จฯ บริเวณดังกล่าว ดังเช่น พระบาทสมเเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวฯ ทรงปักธงชาติไทยไว้ในวโรกาสการเสด็จฯ เยือนเดนมาร์ก เมื่อปี ค.ศ. 1907 เสด็จฯ ทอดพระเนตรรอบบริเวณ Østerby และ Vesterby หลังจากนั้น เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ กลับถึงพระราชวัง Fredensborg สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และเจ้าฟ้าชายเฮนริก พระสวามี พระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำำำ หลังจากนั้น สมเด็จพระะเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลลาสมเด็จ พระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และเจ้าฟ้าชายเฮนริกพระสวามี
  • เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ เยือนเกาะ กรีนแลนด์ โดยทอดพระเนตรสถานที่สำคัญๆ ในเมือง IIulissat อาทิ ท่าเรือ โบสถ์ Zionskirken และพิพิธภัณฑ์ Knud Rasmussen
  • เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ โดยขบวนสุนัขเลื่อนเพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพทางบกของเมือง IIulissat เสด็จฯ โดยเรือพระะที่นั่งทอดพระเนตรทัศนียภาพทางเรือ และธารน้ำแข็งในเมือง IIulissat
  • เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ กลับมายังกรุงโคเปนเฮเกน
  • เมื่อวันที่ 25 เมษายน 25545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตรมหาวิหาร Roskilde พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง วิทยาลัยเกษตรกรรม Lyngby ปราสาท Ledreborg และเสวยพระกระยาหารกลางวันจัดถวายโดยทายาทเจ้าของ     ปราสาทฯ หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชุมชนชาวไทยและครอบครัวในเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียง เข้าเฝ้าฯ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อได้เวลาอันสมควร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประะทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ออกจากทำเนียบเอกอัครราชทูต ไปยังท่าอากาศยานโคเปนเฮเกนเพื่อประทับเครื่องบิน พระที่นั่งนิวัติสู่ประเทศไทย
  • ในวโรกาสเสด็จฯเยือนเดนมาร์ก ระหว่างวันที่ 19 - 25 เมษายน 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระเกษมสำราญดี

3.  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสแก่ ชุมชนชาวไทย ในเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียง

                  เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2545  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชุมชนชาวไทยและครอบครัวในเดนมาร์ก และประเทศใกล้เคียง เข้าเฝ้าฯ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน และในวโรกาสดังกล่าว สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสแก่ชุมชนชาวไทย ดังนี้

  • ทรงขอบใจแก่พสนิกรที่ได้มาเข้าเฝ้าฯ พระองค์และทรงรับสั่งถึงการเสด็จฯ เยือนกรีน แลนด์ว่า ชาวพื้นเมืองที่นั่นมีทัศนคติที่ดีต่อคนไทยที่ไปตั้งรกรากอยู่ อีกทั้งทรงรับสั่ง ถึงการเสด็จฯ เยือนเดนมาร์ก ว่าเป็นครั้งแรกชองพระองค์ สืบเนื่องมาจากทรงได้รับ พระราชทานคำเชิญจากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ของเดนมาร์ก เมื่อครั้ง เสด็จเยือนประเทศไทย
  • ทรงรับสั่งว่าทรงได้รับการต้อนรับอย่างดีจากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่ง เดนมาร์ก รวมทั้งการเสด็จฯเยือน ณ สถานที่ต่างๆในประเทศเดนมาร์กเช่นเดียวกัน
  • พสกนิกรชาวไทยได้กราบบังคมทูลถามว่า พระอง๕์ท่านจะเสด็จฯ มาเยือนเดนมาร์กอีกหรือไม่ ทรงรับสั่งว่า ถ้ามีพระราชวโรกาส ก็จะเสด็จฯ เยือนเดน มาร์กอีก
  • ทรงอำนวยพรให้ชุมชนชาวไทยในเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียง ประสบความสุข ความเจริญและมีความสามัคคีกัน
4. พระราชดำรัสบางตอนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี แก่ชุมชน ชาวไทยที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อ
วันที่ 25 เมษายน 2545

                  "ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับในวันนี้ มาทุกๆวันก็มีคนไทยที่อยู่จุดโน้้น จุดนี้ก็มา ต้อนรับกัน การขึ้นไปที่กรีนแลนด์ก็ยังมีคนไทยทุกจุดที่ไป มีคนไทยทำผัดปลาวาฬให้รับประ ทาน รู้สึกว่าเป็นการผสมผสานดี สังเกตุดูว่าไปที่ไหน คนไทยในท้องที่เขาก็ชอบคนไทย เห็นว่าเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยดี พวกนักเรียนก็บอกว่า มานี่ก็ตั้งใจจะเผยแพร่ วัฒนธรรมไทย เผยแพร่การท่องเที่ยวไทย ก็รู้สึกว่าทุกคนตั้งใจจะแข่งกันเป็นทูตกับท่านทูต อดิศักดิ์ หลายคนมีประสพการณ์ดี มาอยู่กันหลายปี มาอยู่ที่เดนมาร์ก มาจากหลายที่เช่น สวีเดน ฟินแลนด์ เยอรมัน ซึ่งก็ถือว่าถ้าเราทำอะไรดีก็ได้ดีก็จะเป็นเกีรติเชิดหน้าชูตาของ ประเทศ เท่าที่ผ่านมา เขาก็ชื่นชมดีว่า คนไทยที่อยู่ตามที่ต่างๆ เป็นคนที่รักสงบ รื่นเริง เป็นคนน่าคบ ฟังแล้วก็รู้สึกดีใจด้วย การที่ขึ้นมานี่ สมเด็จพระราชินีท่านทรงพระกรุณาให้อยู่ ให้คนมาคอยดูแลจัดการให้้ว่าควรจะไปที่ไหนที่น่าสนใจ เพราะว่าครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่มาประเทศนี้ เคยมาแค่เพียงเปลี่ยนเครื่องบิน แต่ที่ได้มาดูอะไรจริงๆครั้งนี้ เป็นครั้งแรก เพราะว่าตอนที่สมเด็จพระราชินีฯเสด็จฯเมืองไทย ได้มีโอกาสตามเสด็จฯไปที่ต่างๆ ที่เมืองไทย ที่จริงตามเสด็จฯ อย่างนั้นก็ดี ได้เรียนรู้อะไรไปด้วย ต้องคอยดูแลการเสด็จ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยยิ่งขึ้น และได้มีโอกาสมาเยือนในครั้งนี้"

                  "สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงพระราชทานเลี้ยงน้ำชา ตอนมาถึง แล้วก็เลี้ยงอาหารค่ำด้วยก่อนที่จะเดินทางไปกรีนแลนด์ ที่จริงมาที่นี่ได้ทำอะไร ดูอะไรอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น เหมือนกับว่าเป็นตัวอย่างที่จะได้เห็น ท่านก็บอกว่า ให้เรียนรู้อะไรต่างๆที่นี่ ที่จริงก็เคยเฝ้าฯท่านมาหลายครั้งแล้ว สมัยที่พระราชบิดาของท่าน เสด็จฯเยือนประเทศไทยเมื่อ 40 ปีที่แล้วก็ได้เข้าเฝ้าฯ ในขณะนั้นด้วย ก็รู้สึกว่าได้รู้จักกันมานาน"

                   "หวังว่าทุกคนจะอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขและรวบรวมกันได้ ถ้ามีอะไรก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่คนไทย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างจากเมืองไทย ตามมาคุ้มครองทุกๆท่านที่นี่ ให้ประสพแต่ความสุขทั้งกายและใจ มีกำลังกายกำลังใจ เข้มแข็งในการที่จะปฏิบัติอะไรต่างๆ แต่ก็รู้สึกว่าดูปรับตัวได้ดี อย่างเมื่อวานก็ถามคนที่พบ ข้างทางซึ่งชาวเดนมาร์กอธิบายว่าเมืองนี้หนาวมาก คนท้องถิ่นเองเวลาหน้าหนาว บางทีก็ไปที่อื่นๆกัน แต่คนไทยอยู่กันได้ ก็ถามว่าแล้วทำยังไง เขาก็ตอบว่า ก็ใส่เสื้อหลายๆชั้นเท่านั้น ดูจะไม่มีปัญหากัน"

                    มีผู้กราบบังคมทูลถามว่่า เมื่อไรจะเสด็จฯเดนมาร์กอีก

                    "ต้องหาทางมาอีก มาที่นี่เขาก็บอกว่าพอแล้วใว้คราวนี้ ค่อยดูต่อ ยังไม่ทราบจะเป็นเมื่อใด"

                     มีผู้กราบบังคมทูลถามว่า เสด็จฯกรีนแลนด์หนาวหรือไม่

                     "ที่นั่น - 22 องศา วันนี้ร้อน"

Sawasdee Thai-Dansk Forening, Parkvej 26, 5492 Vissenbjerg. e-mail: info@thai-dansk.dk

Click for Bangkok, Thailand Forecast