ภาษาไทย Dansk                                                                                                         คณะกรรมการ Link

Forside
Billeder
Indmelding
Indvielsen af rytterstaueOm foreningen
TempelVedtægter
Valutakurs
Thai Festival
 

Click for Bangkok, Thailand Forecast

 

 

 

 

 




 

 

ผ้าป่าสามัคคี เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ณ วัดป่า โคเปนเฮเกน

เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ ๑-๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ญาติธรรมแถบเมืองหลวงได้มีโอกาสต้อนรับพี่น้องชาวสมาคมสวัสดีไทย-เดนิช จากยูลแลนด์และฟืนกว่า ๒๐ ชีวิตที่เดินทางมาเพื่อทอดผ้าป่าสามัคคี ณ. วัดป่าโคเปนเฮเกน นำโดย พี่สุพรรณ ประธานสมาคมฯ และ พี่มาลี ศรีภรรยาของเหรัญญิกสมาคมฯ คุณ ยอร์น คริสเตนเซ่น

คณะศรัทธาได้เดินทางมาถึงวัดตอนบ่ายแก่ ๆ ของวันเสาร์ที่ ๑ หลังจากที่ได้เดินทางไปกราบสักการะพระบรมรูปทรงม้าของ พระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประดิษฐาน ณ. เอเชียเฮ้าส์ กลางกรุงโคเปนเอเกนเพื่อเป็นสิริมงคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากรับประทานอาหารเย็นอย่างอิ่มหนำสำราญแล้วพวกเราก็พาคณะเดินย่อยอาหารในเมือง ดราวเอื้อ (Dragør) อันเป็นเมืองเก่าตั้งอยูริมทะเลที่สามารถชมทิวทัศน์สะพานข้ามไปสวีเดนได้อย่างชัดเจน

ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณชั่วโมงกว่า ๆ พวกเราได้เดินชมเมืองเก่าที่เป็นบ้านเล็กหลังเล็กๆ สีเหลืองที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มาตั้งรกรากจากจากประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อประมาณ ๒๐๐ ปีก่อน ทางเดินระว่างบ้านก็จะเป็นทางเดินเล็ก ๆ ปูด้วยหินและแต่ละบ้านก็ปลูกพันธ์ไม้ต่าง ๆทั้งไม้ยืนต้น ไม้เลื้อยสีสรรค์ต่าง ๆ  สดใสสวยงามป็นที่น่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง

พวกเราไปนั่งพักกันที่ท่าเรือที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสะพาน น้ำทะเล และท้องฟ้าสีครามและลิบ ๆ ก็แลเห็นประเทศสวีเดนอยู่ไกล ๆ หลายคนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันเป็นที่สนุกสนานกันทั่วหน้า ก่อนที่จะเดินกลับวัดเพื่อให้ทันทำวัตรเย็นก่อน ๒ ทุ่ม

หลังทำวัตรเย็นพวกเราก็ช่วยกันตั้งต้นผ้าป่าสามัคคีกันในบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อนนอนหลับกันตามอัธยาศัย

เช้าวันอาทิตย์มีหลายคนขึ้นมาทำวัตรเช้าตอนตี ๕ ครึ่ง สาธุ หลังจากนั้นร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ก่อนจะร่วมกันรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อยเพราะทานกันหลายคน

ประมาณ ๙ โมงเช้าพวกเราเตรียมพร้อมบนโบสถ์เพื่อร่วมกันถวายผ้าป่า ตอน ๙ โมงกว่าก่อนที่จะสดับฟังพระธรรมเทศนาเนื่องในวันแม่จากพระสงฆ์ซึ่งท่านเทศน์ถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลของแม่ที่ซาบซึ้งมากจนได้ยินเสียงสะอื้นของบางคนที่กลั้นไม่อยู่

หลังการฟังธรรมเราก็ได้สวดมนต์เช้าแปลก่อนการตักบาตรถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ก่อนที่พวกเราจะลงไปร่วมรับประทานอาหารเพลร่วมกับสาธุชนที่มาร่วมบุญจากแถบนี้และสวีเดนก่อนออกเดินทางกลับ

กว่าจะล่ำลาร่ำไรกันเสร็จสิ้นก็บ่ายโมงกว่าก่อนที่คณะศรัทธาจะได้เดินทางกลับไปด้วยสีหน้าที่ชื่นมื่น ท้องก็อิ่ม ใจก็อิ่มเอิบไปด้วยบุญถ้วนหน้า  สมดังกับที่ท่านว่า การสั่งสมบุญนำสุขมาให้สาธุ ดูรูปภาพ คลิ๊ก...

โดย เพียงใจ

Undskyld, kun på thai-sprog............

โมทนา สาธุ มารับบุญกันด้วยจ้า.........

      จบเสร็จสิ้นกันไปแล้วด้วยความสนุกสนาน และอิ่มบุญกันมาถ้วนหน้า ณ. วัดป่าโคเปนเฮเก็น เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2548 ที่ผ่านมา มีคนไปกันมาก ทั้งฝรั่งและ คนไทยที่อาศัยอยู่ในเดนมาร์กไปร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เห็นแล้วชื่นอก ชื่นใจ ทั้งคนไทยในโคเปน และเมืองต่างๆที่เหมารถบัสกันไปเป็นหมู่คณะ ไหนจะคนไทยที่มากจากสวีเดนอีก
      รถทีเราไปกันเป็นรถบัสสองคัน แยกกันขึ้นตามจุดต่างๆ รวมกันแล้วก็ 90 คน ณ.จุดนัดพบแรกที่ Vejle พอรถสองคันนี้เจอกันเท่านั้นแหละ พระเจ้า
ช่วยกล้วยทอดเอ๋ย เพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอะเจอกันมานาน พอเจอกันก็ดีอกดีใจ ส่งเสียงทักทายกันให้ลั่น สิงห์สา ราสัตว์ ออกมาเพ่นพ่านกันให้ยั้วเยี้ย สมแล้วจริงๆที่คนแด้นท์ว่าพวกเราว่า เหมือนแม่ไก่ แจ๊กๆๆๆกันตลอด คนที่ขึ้นนั่งรถมาคันที่ 1 มาเจอเพื่อนที่อยู่คันที่ 2 ก็จะย้ายมานั่งอยุ่ด้วยกัน ทำเอาคุณเบญจาหัวปั่น เอาคนของเดี้ยนคันนี้กลับมา แต่ไม่มีใครกลับ ไปแอบกันอยู่เบาะหลัง ร้องเรียกหาผู้เสียสละให้กลับไปนั่งคันพี่เบญจา ก็ไม่มีใครไป เค้าบอกกันว่า คันนี้มันส์กว่า มีนักร้องอยู่เยอะ
      ปีนี้มีคนหน้าใหม่  ที่ใหม่นี่ก็แต่หน้า แต่ตัวน่ะอยู่มานานแล้วแต่ไม่เคยได้ไปวัดไทยเลย มากันมาก อย่างคุณต้อย ชุติมา กับคุณนิตยา จาก Herningสองศรีพี่น้องคุณติ้ง ประชุมเพลิง อุ้ย...ขอโทษ คุณประชุมพรค่ะ กับคุณต้อย ไฮเวย์ เพราะปากเธอกว้าง และยาวเหมือนทางด่วนแจ้งวัฒนะ ดาวคะนอง, แม่สาวปูเค็ม ที่ดองนานไปหน่อยจนอืด และบวม, คุณปลื้ม แสนซื่อ ที่ซื้อเบอร์สอยดาวไว้ เค้าจับจนเสร็จไล่แจกของขวัญหมดแล้ว เธอยังเก็บเบอร์ไว้ว่าเมื่อไหร่จะจับสักที ขนาดบอกว่าเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-ดอนเมือง ยั้งจะรออีก โธ่...ธรรมโมสังโฆ และอีกหลายๆคนที่มิได้เอ่ยชื่อ
      ส่วนหน้าเก่าขาประจำก็ไปกันไม่ขาด ไม่ว่าจะเป็นคุณจุ๋ม ของเราที่ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ค่อยสบาย แต่ก็ไม่พลาดงานบุญอย่างนี้, แม่สาวกิโล 7, คุณต้อย(เขียว)หน้าเด็ก, สองศรี่พี่น้องตระกูลดอกไม้งาม คุณกรรณิกา เจ้าของเพลงโบว์รักสีดำ ที่ใครๆฟังแล้วต้องทึ่ง ที่เธอร้องเพลงนี้ได้ไงเนื้อเพลง 3 หน้ากระดาษ ร้องโดยไม่ต้องดูเนื้อเพลง แถมยังมีพูดเสียงในฟิลม์ได้อย่างมันส์ซะใจหล้าย หลายกับน้องสาว
แม่บุปผาราตรี แม่ตลกหน้าเรียบๆจนลูบไม่เจอดั้งของหล่อน ไม่ว่าจะเว้าอะไรออกมาเป็นได้ฮากันทั้งรถ ,สองศรีพี่น้องหลานย่าโมอีกคู่ที่น่ารักคือคุณป้าสายใจ กับพี่แมว มือกลองที่ตีตลอดไม่จับไม้กลองให้หยุดพี่แกก็ตีไม่เลิก ตีตลอดไม่มีบ่น ตีลูกเดียว มาเถอะ ฮิฟฮ๊อฟ ร๊อค แร็ฟ พี่แกก็ตีไปได้ทุกรูปแบบแถมยังหาไม้กลองคู่ใจมาเองอีกต่างหาก,คุณรัตนา ก็ตกไปอยู่รถอีกคันบ่นเสียดายไมหาย แต่ขอบอกค่ะ ขอบอกว่าทอดมันเธออร่อยมาก งานนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรนะคะ, ป้าแอ๊วของเราก็หนอ ขนาดเค้าร้องไปถึงกิโล 7 ตั้ง 3 รอบแล้ว ป้าเรายังไม่รู้เลยว่า เค้าไปกันทำไมกิโล7 โถ...ป้าจ๋าตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าเค้าไปกันทำไม,คุณพี่วลี ของเราก็โดนเปลี่ยนชื่อเป็น สวลีซะ คุณพี่เราอยู่แผนกหนุนหลัง ดันดารา เพราะแกคอยดันหลังนักร้องไว้ไม่ให้ล้มเวลารถเบรค ไอ้เบรครถคันนี้ก็ดีซะจริง โชเฟ่อร์เบรคทีทำเอาพวกนักร้อง นักเต้นหัวทิ่ม หัวตำกันเป็นระนาว

       การประกวดนางนพมาศ มีผู้เข้าสมัครทีส่งรายชื่อไปแล้วเตรียมชุดกันมาอย่างสวยงาม พอแม่สาวกิโล7 เห็นนึกสนุกลงประกวดกะเค้าบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรกับเค้าสักอย่าง ร้อนถึงคุณพี่มาลี  ทีอุตส่าห์เดินไปหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาให้ พอมาถึงแม่กิโล7 นี่ใส่ชุดแล้ว เพราะได้คุณเบญจา ไปเจรจาขอยืมชุดจากเด็กที่เข้าประกวดรอบเด็กมาให้ เข็มขัดก็ยืมจากเด็ก 5 ขวบมาคาดไม่ถึงสองนาที เด็กมาร้องเอาคืน รองเท้าที่ใส่ ของใครเค้าถอดไว้ไม่รู้ก็เอามาใส่ เรียกว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าแม่นางงามคนนี้ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย เค้าว่ากันว่ามันได้นางงามมาได้ยังไงว่ะนี่

        งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีได้เงินทำบุญ 12,890 โครน จากคณะของพวกเรา เงินเข้าวัดทั้งหมดร่วมสองแสนโครน ยังไม่รวมเงินสกุลต่างอีก เช่น ยูโร สวีดิช ดอลล่าร์ และเงินไทยอีก อาหารการกินที่จัดให้พวกเราได้อิ่มหมีพลีมัน โดย
คุณจินตนาและชาวคณะที่โคเปน ที่ทำให้เรามีกินกันอย่างอุดมสมบูรณ์ แถมห่อให้ไว้กินกลางทางด้วย สาธุ สาธุ 

งานเริ่มด้วยประธานในพิธี คือท่านเอกอัครฑูต ชัยสิริ อนะมาน เป็นตัวแทนในการรับพระราชทานกฐินในครั้งนี้ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนไตร แล้วต่อด้วยเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้แทนคณะรับผ้าพระกฐิน ถวายแด่พระสงฆ์
 

เสียงครวญจากรถบัสเบอร์ 2
ตื่นแต่เช้า ประมาณตีสีูี่เห็นจะได้ สดชื่น ไม่รู้สึกเพลีย เพราะจะได้มีโอกาสไปทำบุญเนื่องในงานถวายพระกฐินพระราชทาน ที่วัดป่าโคเปน รีบลุกนึ่งข้าวเหนียว และมีไส้อั่วฝีมือของเพื่อนเขาให้มา รีบอุ่นในไมโครเวฟใส่ถุงอย่างรีบด่วน กลัวจะไม่ทันรถ เพราะหมายกำหนดการ รถบัสจะรับเราที่Hobro N.เวลา 7.30 น มีขึ้นที่นั่น 3 คน รอแล้วรออีก ยืนรอบนสะพานมองคันไหนก็แล้ว เห็นรถบัสผ่านไปได้สัก 3 คัน ลอดใ้ต้ถุนสะพานไปเฉยเลย แปลกใจ โอ อยู่ไม่ได้แล้วเรา เพราะเวลาก็ใกล้ 8 โมงเข้ามาเต็มที เอ๊ะ รถบัสผ่านไป ลืมเราแล้วรึนี่    ชักเอะใจ   ก็เลยกริ๊ง ถึง พี่ชายเรา (สุพรรณ) ถึงได้ถึงบางอ้อ ทางกลุ่มพี่ๆเราที่ Aalborg ก็ไม่ยักโทร มาบอกว่ารถบัสมีปัญหา Start ไม่ติด ต้องเปลี่ยนคันใหม่ ก็เลยเอาแต่รอ……พอขึ้นรถทักทายโดยการสวัสดี โดยยึดมั่นประเพณีไทยเป็นที่เรียบร้อย ก็เลยไปรับ พวกที่รอที่ Randers ชึ่งนำโดยคุณรัตนา สนุกสนานกันเป็นการใหญ่ ระหว่างทาง น้องสมหมาย ก็เอาข้าวเหนียวและไก่ย่างเดินแจก ซึ่งได้ต้นทุนจากน้องอ้อ ทั้งทำบุญ ทำทาน ก็ขอให้ได้บุญหลายๆเด้อ แล้วรถบัสก็ต้องมุ่งตรงไปที่ Vejle เพราะต้องเอากลองไปให้รถบัสอีกคันที่รออยู่ที่นั่นคือกลุ่มของคุณแอ๊ว คุณจุ๋ม คุณจิ๋ว คุณคลิ๊ก คุณวลี ต้องขอโทษผู้ที่ไม่ได้เอ่ยนามด้วยนะ ไม่ไช่จำชื่อไม่ได้ แต่หน้ากระดาษเราบ่พอ พักสักครู่ก็มุ่งตรงไปรับคณะจาก Odense ซึ่งนำโดยประธานของเรา ขณะที่รถบัสกำลังวิ่ง พวกเราก็ใจจดใจจ่อ กลัวจะไปไม่ทันพิธีที่วัด คนขับก็สุดแสนจะใจเย็น(แต่ก็ปลอดภัยดีนะ) พวกเราร้อง สิบ ยี่สิบ สามสิบ สี่สิบ ลูกพี่เราเหยียบ ร้อยสี่สิบ เขาก็ฟังเราไม่รู้เรื่อง เพราะเขาขับตามกฎกติกามารยาท

มาถึงตอนนี้ก็ต้องขอมอบหน้าทีให้น้อง อ อ่าง สระ ออ ไม้โท บรรยายต่อจ้า……...ฮิ ฮิ(อยู่ Aalborg ไง๋ไปขึ้น Odense)
 

อิ่มบุญ กันทั่วหน้าในเหตุการณ์วันนั้น ผู้เขียนเองประทับใจในสิ่งที่ได้รับ ได้เห็นได้ยิน ได้ทำ ทุกคนที่ไปในครั้งนี้คงจะไม่มีใครพูดว่าไม่ประทับใจ กลุ่มเรารถบัส 2 คัน

เมื่อไปถึงก็มีอาหารรออยู่แล้ว ได้เห็นคนไทยที่อยู่ในโคเปญฯที่มาร่วมบุญกันที่วัดป่าฯแล้ว ซึ้งใจ ประทับใจ ช่วยกันคนละไม้ละมือ และก็พวกเราที่มาในรถบัส ก็มีบางคนที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนก็ทักทายพูดคุย ทุกคนมีอัธยาศัยที่เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสกัน บางคนตลก ขบขัน และบางคนเขาก็มีอาหารมาเผื่อ ๆกันในรถไปด้วย เมื่อเราๆไปถึงก็มีการประกวดนางนพมาศของเด็ก ๆ น่ารักมาก ๆ ทุกคนเลยประทับใจจริงๆ และผู้คนหลั่งไหลมาทำบุญกันจากทุกทั่วสารทิศ ที่นั่งไม่พอ หลาย ๆคนก็ยืนแต่มองหน้าตา แล้วสดชื่นบ่งบอกถึงความสุขใจที่ได้เข้ามาในวัด พวกเราทุกคนได้ร่วมถวายกฐิน เสร็จก็ได้ถวายสังฆทาน, ถวายผ้าป่า, พอตกเย็นพวกเราก็รับประทานอาหาร ผู้เขียนเองอดไม่ได้ที่จะชมคุณป้า,คุณพี่ ๆ ที่วัด เขาให้การต้อนรับอย่างอิ่มหนำสำราญกันทุกคน และตกเย็นพวกเราพากันหาที่นอนทุกคนเต็มใจที่จะนอนตรงไหนก็ได้ในวัดคืนนี้เพราะพวกเราได้อิ่มบุญได้รับความสุขอย่างเต็มที่แล้ว ผู้เขียนเองตอนแรกกะว่าจะนอนชั้นล่างในห้องที่กลุ่มของคุณจิ๋วจ๋า (นางนพมาศปี 2005)เขานอนกัน แต่คงไม่ไหวเพราะทุกคนดูๆแล้วคงจะไม่นอนแน่คืนนี้คงจะนั่งกันทั้งคืน ดู ๆแล้วเขาทุกคนในกลุ่มสนุก สนาน ตลกขบขัน และหยอกล้อกันตลอดเวลา ไม่มีใครจะดูทีท่าว่าง่วงเลยสักคนเขามีความสุขกันมากๆเห็นแล้วประทับใจจริงๆ ผู้เขียนก็เลยหอบผ้าห่มขึ้นไปนอนห้องพระข้างบน ก็ตรงเวลาที่พระท่านทำวัตรเย็นพอดี ผู้เขียนและทุกคนที่อยู่ในห้องพระก็ได้นั่งสมาธิกันซึ่งเป็นอะไรที่ผู้เขียนเองไม่เคยเจอมาก่อน มันสุขใจ ประทับใจ ดีใจ ตื้นตันใจ ทุก ๆคนนั่งอยู่ในความสงบเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ๆ ทุกคนในห้องนั้นสงบเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ในนั้นแม้แต่คนเดียว ถึงตอนนี้ผู้เขียนเองเกรงว่าจะมีเสียงแปลก ๆ เล็ดลอดออกมาเพราะวันนี้ทั้งวันได้ยินหลายคนบ่นว่าไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย เพราะคนมันเยอะอีกอย่างไม่ชินกับห้องน้ำของวัด ปรากฏว่าเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดีทุกคนเก็บความรู้สึกเก็บอารมภ์ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง และต่อเวลาจากนั้นพระท่านได้เทศน์เรื่องราวต่างๆมันทำให้เพิ่มความตื้นตันใจ เชื่อเลยว่าคำพูดที่พระท่านได้กล่าวในคืนวันนั้นมันแทงใจคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นเกินครึ่งเลยเป็นแน่นอน ก็พระท่านเอาความเป็นจริงของมนุษย์มากล่าวเลยค่ะ
หลังจากนั้นเสร็จ บางคนก็ลงไปหาที่นอน และผู้เขียนเองก็นอนห้องพระกะว่าจะได้เงียบสงบนอนสบายถึงจะต้องตื่นแต่ตี 5 แต่ก็ไม่เป็นไร ปรากฏว่าคืนนั้นนอนไม่หลับเลยค่ะ กำลังจะเอนหลังลงนอนปิดไฟมืด ปรากฏว่ามีเสียงดนตรีขึ้นเลยประสานเสียงทั้งสองฟากเลยค่ะ.ฟี๊ๆๆๆ.คล๊อกๆๆๆ ผู้เขียนเองดึงผ้าห่มมาอุดหูก็แล้วเสียงมันก็ไม่หาย ก็เลยทำใจคิดเสียว่ามีดนตรีกล่อมแต่เราไม่หลับเอง พอประมาณเกือบจะตี 4 เห็นจะได้ มันไม่ไหวแล้วขอสักงีบเถอะมันเพลียเหลือเกิน กำลังจะหลับตา ปรากฏว่าคุณเบญจาเขาลุกขึ้นรีบบอกว่าตี 5 แล้วค่ะ......เราก็ว่ามันทำไมเร็วจังก็หยิบนาฬิกามาดูเพิ่งจะตี 4 งานนี้ให้อภัยเขาเถอะเพราะคนอายุปุนนี้แล้วหูตาลายเป็นธรรมดา  เอาล่ะตอนเช้ามาในห้องครัวเขาช่วยกันคนละไม้ละมือมีครบทุกอย่างขนมปัง กาแฟ ชา ข้าวต้ม เห็นแล้วก็ประทับใจทุกคนที่ตื่นนอนมาเจอกันและทุกคนที่อยู่ในวัดไม่ว่าใครก็ตามเป็นกันเองยิ้มแย้มแจ่มใส  สดชื่นกันทั่วทุกคน ทั้ง ๆที่ไม่ได้นอนเต็มที่ แต่หน้าตาทุกคนบ่งบอกถึงความสุข ความเต็มใจที่ได้ทำ ที่ได้รับ ก็อดไม่ได้ที่จะขอบพระคุณคนไทยที่อยู่ในโคเปญฯ ที่มาช่วยงานวัดในวันนั้น ทำให้พวกเราทุกคนได้ประทับใจไปตลอด ไม่ลืมเรื่องอาหารนั้น ทุกคนอิ่มหนำสำราญและประทับใจคุณน้องเล็ก (โคเปญฯ) นอนที่วัดต้องตื่นแต่เช้าและที่ช่วยดูแลอาหารเช้า ร่วมกับคุณป้า
,คุณพี่ ๆ ด้วยอุตส่าห์ห่อข้าวกล่องและหมี่กรอบฝากมาให้พวกเราได้ทานกันบนรถขากลับด้วย งานนี้ทุกคนจะต้องจดจำไม่มีใครลืม มันเป็นความรู้สึกที่ดี และความประทับใจที่เรา ๆคนไทยที่อาศัยอยู่ในเดนมาร์กมีความร่วมมือกันและความพร้อมเพรียงกัน โดยที่ทุกคนมีความเต็มใจและก็อิ่มบุญกันถ้วนหน้า ปีต่อไปผู้เขียนหวังว่าจะต้องมีผู้คนต้องการจะมาร่วมทำบุญกันมากยิ่งกว่านี้แน่นอน


จะอย่างไรก็ตาม งานนี้ที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็ด้วยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมศรัทธา ของบุคคลหลายๆฝ่าย

อาทิเช่นคุณJens Aage & คุณJoy Madsen คุณMalee Christensen คุณBenja Punyakom คุณRattana Axelsen คุณManeerat (Klick) Hansen คุณSathian Frandsen คุณJoom Sandgård คุณValee Toft คุณAnong Nilket คุณSasithorn (Maew) Klug และ คุณ Suphan Ruengkratok ก็ต้องขอขอบคุณมาณที่นี้ด้วย ปีหน้าฟ้าไหม่เราคงต้องร่วมมือกันทำกิจกรรมดีๆอย่างนีอีก สาธุ

Tempeltur Dragør d. 12.-13.november 2005

วัดป่า โคเปนเฮเกน และ สมาคมสวัสดี Thai-Dansk Forening

Sawasdee Thai-Dansk Forening, Parkvej 26, 5492 Vissenbjerg. e-mail: info@thai-dansk.dk

Click for Bangkok, Thailand Forecast